 |
ผมจะพูดถึงการใช้เว็บบราวเซอร์ในโหมดส่วนตัว Private Browsing เว็บบราวเซอร์ส่วนใหญ่จะมากับโหมดนี้เสมอ จะทำให้เราเล่นเน็ตไร้ร่องรอยบราวเซอร์จะไม่ติดตามประวัติการเข้าเว็บ คุกกี้ และไฟล์ขยะชั่วคราวที่มักจะเป็นเครื่องมือของผู้ที่ไม่หวังดี ถ้าเราใช้โหมดส่วนตัวในการท่องเน็ตเมื่อปิดบราวเซอร์ บราวเซอร์ก็จะลบข้อมูลคุกกี้ ไฟล์ขยะที่โหลดไว้ตอนที่เราเล่นเน็ต เหมือนกับว่าเราไม่ได้เปิดบราวเซอร์เล่นเน็ตเลย
โหลดส่วนตัว Private Browsing จะ :
- ไม่บันทึกลิงค์เว็บที่เราเยี่ยมชมลงในประวัติการเข้าเว็บ
- ไม่จดจำข้อมูลที่เรากรอบในช่องค้นหาและฟอร์มต่าง ๆ
- ไม่จดจำรหัสพาสเวิร์ดที่เราป้อนเมื่อจะเข้าสู่ระบบเว็บต่าง ๆ
- ไม่จดจำประวัติการดาวน์โหลดไฟล์
- ไม่เก็บไฟล์คุกกี้
- แคชหรือไฟล์ชั่วคราว หรือไฟล์ขยะที่โหลดไว้ตอนที่เราเล่นเน็ตจะไม่ถูกเก็บไว้
เมื่อเรารู้ประโยชน์ของการเล่นเน็ตในโหมดส่วนตัวแล้ว เรามาดูการใช้โหลดนี้ในแต่ละบราวเซอร์ แต่ละบราวเซอร์อาจจะแตกต่างกัน
Google Chrome Webbrowser
 คลิกที่ไอคอนเครื่องมือแล้วเลือกคำสั่ง <หน้าต่างใหม่และไม่ระบุตัวตน> หรือใช้คีย์ลัด Ctrl+Shift+N |  |
Mozilla FireFox Webbrowser
 คลิกที่เมนูตัวเลือกแล้วเลือกคำสั่ง <เริ่มการดูเว็บแบบส่วนตัว> หรือใช้คีย์ลัด Ctrl+Shift+P |  |
Internet Explorer
 คลิกที่เมนู Tools แล้วเลือกคำสั่ง <InPrivate Browsing> หรือใช้คีย์ลัด Ctrl+Shift+P |  |
Safari
 คลิกไอคอนรูปเฟื่องแล้วเลือกคำสั่ง <Private Browsing...> |  |
Opera
 คลิกที่ไอคอน Opera แล้วชี้ที่ Taps and Windows แล้วเลือก New Private Tap หรือ New Private Window หรือคีย์ลัดสำหรับ New Private Window Ctrl+Shift+N |  |
บทความนี้นำเสนอแค่ 5 ตัวบราวเซอร์ดัง ๆ หากใครใช้เว็บบราวเซอร์อื่น ๆ จากข้างต้นก็ลองใช้เองน่ะครับ ขั้นตอนจะคล้าย ๆ กันไม่ได้ยากหรอก หวังว่าบทความมีประโยชน์ต่อชาวเน็ตเป็นอย่างมาก
แสดงความคิดเห็น